9 วิธีเลือกซื้อแอร์มือสอง

รูปภาพประกาศ

รายละเอียดประกาศ

แนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์มือสอง

การหาแอร์มือสองมาใช้จะช่วยทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายก็จริง..แต่ถ้าหากเลือกซื้อของมาไม่ดีก็อาจจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าซื้อแอร์ใหม่ซะอีก เพราะซื้อมาแล้วติดตั้งแล้วอาจมีปัญหาแก้ไม่จบไม่สิ้น เช่น ติดแล้วคอมเสีย ติดแล้วแผงรั่ว ซื่งปัญหาเหล่านี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพราะแอร์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ยากแก่การตอบได้ว่าจะใช้งานได้อีกนานแค่ไหน

วันนี้ผมเลยเอาวิธีเลือกซื้อแอร์มือสองมาฝากครับ ถึงแม้จะตรวจเช็คได้ไม่ละเอียดมาก เหมือนตรวจจากห้องแลป(ใครจะลงทุนเอาไปตรวจ) แต่อย่างน้อยก็สามารถคัดกรองคุณภาพแอร์ได้ในระดับหนึ่ง

1. ในการซื้อแอร์มือสองควรพิจารณายี่ห้อของแอร์ด้วย ถ้าแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในด้านความคงทนหน่อยก็จะมีภาษีดีกว่า อย่างเช่น Mitsubishi Daikin Carrier เป็นต้น เพราะแอร์มือสองเราไม่รู้ว่าเจ้าของเดิมใช้งานมาหนักแค่ไหน ถ้าเลือกแบรนด์ที่ใช้วัสดุเกรดต่ำก็จะเสี่ยงต่อการรั่ว เสี่ยงต่อการต้องซ่อมมากกว่า 
   
   
2. ให้ดูสภาพภายนอกภายในก่อนว่าเป็นอย่างไร อุปกรณ์พลาสติกมีการแตกหัก หรือโครงเหล็กมีการผุกร่อนบ้างหรือไม่ ฐานยึดคอมเพรสเซอร์ยังสภาพดีหรือไม่ เพราะถ้ามีการเสียหายทำให้เราจำเป็นต้องหาอะไหล่มาเปลี่ยนในอนาคต(เสียเงินเพิ่มอีก)
   
   
3. ไม่ต้องสนสีของพลาสติคของตัวทำความเย็นด้านในห้อง เพราะแอร์บางยี่ห้อพลาสติคจะดูเก่าๆเพราะผ่านการโดนความเย็นมาเยอะ แต่ไม่ได้หมายความสภาพตัวเครื่องจะไม่ดี
   
   
4. ไม่ต้องสนใจฝุ่นที่เกาะบนตัวเครื่อง เพราะเราสามารถล้างทำความสะอาดได้ ของให้แอร์ใช้งานได้ปกติเป็นพอ
   
   
   
   
   
5. เลือกซื้อแอร์ช่วงหน้าหนาวหรือหน้าฝน เพราะจะมีแอร์ให้เลือกเยอะและราคาถูกกว่าหน้าร้อน(และหาช่างติดตั้งได้ง่ายกว่าด้วย)
   
   
6. ตรวจเช็คสภาพแผงคอยล์เย็นคอยล์ร้อน ว่าครีบมีการล้มหรือไม่เพราะว่าถ้าเกิดครีบล้มมากเกินไป การระบายลมจะทำได้ไม่สะดวก ทำให้ก่อให้เกิดปัญหาแอร์ไม่เย็นได้
   
   
7. เช็คดูสภาพการแพ็คเก็บแอร์ การปิดตรงท่อน้ำยาว่ามีการตัดพับ หรือว่ามีการเอาวัสดุใดมาปิดกันไม่ให้ฝุ่นเข้าหรือไม่  เพราะว่าถ้าในขั้นตอนการตัดเก็บ ไม่มีการปิดให้ดี  ฝุ่นจะเข้าไปในระบบทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต
   
   
8. หาช่างแอร์หรือคนที่มีความรู้ไปเทสแอร์ด้วย(ในกรณีที่ไม่ได้ให้คนขายติดตั้งให้)  ให้ช่างเทสโดยการต่อไฟเข้าคอยล์เย็นเพื่อดูว่ามอเตอร์พัดลมคอยล์เย็นหมุนปกติหรือไม่ มีเสียงดังหรือไม่ และต่อไฟเทสการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ว่าคอมเพรสเซอร์เดินเป็นปกติหรือไม่ มอเตอร์คอยล์ร้อนหมุนปกติหรือไม่ ..สำหรับคอเพรสเซอร์ให้เช็คกระแสด้วย ว่ากินกระแสเกินปกติหรือไม่ ถ้าเกินปกติแสดงว่าคอมเพรสเซอร์ใกล้หมดสภาพแล้วครับ
   
   
9. ควรเลือกซื้อจากคนขายที่มีการประกัน(กรณีให้คนขายติดตั้งให้)  ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีประกันด้วย อย่างน้อยๆก็ควรมีการประกันการติดตั้ง ถ้าร้านค้าที่แฟร์เค้าจะประกันให้อยู่แล้วครับ 

แสดงความคิดเห็น

ประกาศ/โฆษณาอื่นๆ ของสมาชิกท่านนี้